กระเบื้องหลังคาแบบไหนช่วยประหยัดพลังงาน?

ปัจจุบัน แนวคิดเรื่องการประหยัดพลังงานในอาคารได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น กระเบื้องหลังคาที่มีคุณสมบัติช่วยลดการใช้พลังงานจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการออกแบบและก่อสร้างอาคารที่มีประสิทธิภาพสูง บทความนี้จะวิเคราะห์ประเภทของกระเบื้องหลังคาที่ช่วยประหยัดพลังงานโดยพิจารณาแง่มุมต่าง ๆ ได้แก่ วัสดุที่ใช้ คุณสมบัติสะท้อนความร้อน ความสามารถในการเป็นฉนวนกันความร้อน อายุการใช้งาน การดูแลรักษา และความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์

หลังคาเป็นส่วนสำคัญของอาคารที่มีบทบาทสำคัญต่อการควบคุมอุณหภูมิภายใน กระเบื้องหลังคาที่ออกแบบมาเพื่อช่วยลดการใช้พลังงานจะช่วยลดภาระการทำงานของเครื่องปรับอากาศ ลดค่าไฟฟ้า และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม โดยมีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของกระเบื้อง เช่น วัสดุ สี การสะท้อนรังสีดวงอาทิตย์ และระบบระบายอากาศ

 

กระเบื้องหลังคาตราเพชร

กระเบื้องหลังคาตราเพชร

 

1. ประเภทของกระเบื้องหลังคาที่ช่วยประหยัดพลังงาน

1.1 กระเบื้องเซรามิกเคลือบสะท้อนรังสี

กระเบื้องเซรามิกเป็นที่นิยมเนื่องจากมีความทนทานสูงและสามารถเคลือบสารสะท้อนรังสีได้ ซึ่งช่วยลดการดูดซับความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1.2 กระเบื้องคอนกรีตเคลือบสะท้อนความร้อน

กระเบื้องคอนกรีตสามารถเคลือบด้วยสารพิเศษที่ช่วยสะท้อนความร้อน ทำให้ลดอุณหภูมิที่ส่งผ่านเข้ามาภายในอาคาร

1.3 กระเบื้องเมทัลชีทเคลือบกันความร้อน

เมทัลชีทที่เคลือบด้วยฉนวนกันความร้อน เช่น โฟม PU หรือแผ่นสะท้อนความร้อน ช่วยลดการนำความร้อนเข้าสู่อาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1.4 กระเบื้องโซลาร์ (Solar Roof Tiles)

เป็นกระเบื้องที่สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ได้ ทำให้ช่วยลดการใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและเพิ่มความยั่งยืนทางพลังงาน

 

 

กระเบื้องหลังคาตราเพชร

กระเบื้องหลังคาตราเพชร

2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสามารถในการประหยัดพลังงานของกระเบื้องหลังคา

2.1 ค่าสะท้อนรังสีดวงอาทิตย์ (Solar Reflectance Index – SRI)

ค่าการสะท้อนรังสีที่สูงขึ้นจะช่วยลดความร้อนที่ดูดซับเข้าสู่อาคาร ทำให้ลดการใช้พลังงานในการทำความเย็น

2.2 ความสามารถในการเป็นฉนวนกันความร้อน

วัสดุที่มีค่าการนำความร้อนต่ำจะช่วยลดการถ่ายเทความร้อนเข้าสู่อาคาร

2.3 การออกแบบระบบระบายอากาศ

การติดตั้งกระเบื้องหลังคาพร้อมช่องระบายอากาศช่วยลดความร้อนสะสมใต้หลังคาได้ดี

2.4 สีของกระเบื้อง

กระเบื้องสีอ่อนสามารถสะท้อนความร้อนได้ดีกว่ากระเบื้องสีเข้ม ทำให้ช่วยลดการสะสมความร้อน

 

กระเบื้องจตุลอนตราเพชร

กระเบื้องจตุลอนตราเพชร

4. การเลือกใช้กระเบื้องให้เหมาะสมกับสภาพอากาศและงบประมาณ

การเลือกกระเบื้องควรพิจารณาทั้งปัจจัยด้านสภาพอากาศ งบประมาณ และความเหมาะสมต่ออาคาร เช่น หากอยู่ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูง ควรเลือกกระเบื้องที่มีค่าการสะท้อนรังสีสูง และสามารถป้องกันความร้อนได้ดี

5. แนวโน้มของกระเบื้องประหยัดพลังงานในอนาคต

การพัฒนาเทคโนโลยีโซลาร์รูฟ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้า

การใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแรง ลดภาระโครงสร้างและประหยัดพลังงาน

การออกแบบกระเบื้องที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกฃ

กระเบื้องอดามัสตราเพชร

กระเบื้องอดามัสตราเพชร

 

การเลือกใช้กระเบื้องหลังคาที่ช่วยประหยัดพลังงานเป็นปัจจัยสำคัญในการลดต้นทุนค่าไฟฟ้าและสร้างอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กระเบื้องแต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนั้นควรพิจารณาเลือกใช้อย่างเหมาะสมเพื่อตอบโจทย์ทั้งด้านพลังงานและงบประมาณในระยะยาว